รถยนต์ยางแตกทำอย่างไรดี แนวทางป้องกัน และวิธีรับมือกับเหตุฉุกเฉินที่คนขับรถควรรู้
รถยนต์ยางแตก เหตุไม่คาดฝันที่ทำให้ผู้ขับขี่ควบคุมสถานการณ์ได้ยากลำบาก ทั้งจากอาการตกใจ และการเคลื่อนไหวของรถที่ผิดปกติทันทีเมื่อยางเกิดระเบิดออก แม้ว่าในหลาย ๆ ครั้งที่รถยนต์ยางแตก มักก่อให้เกิดความสูญเสียหรืออุบัติเหตุอื่น ๆ ตามมา แต่ทว่าผู้ขับขี่สามารถรับมือกับสถานการณ์นี้ได้ รวมทั้งป้องกันไม่ให้ปัญหายางแตกเกิดขึ้นได้อีกด้วย
สังเกตอาการรถยนต์ยางแตก
การรับมือกับรถยนต์ยางแตกอันดับแรกควรรู้วิธีสังเกตอาการเบื้องต้นของรถก่อนยางระเบิด นั่นคืออาการสั่นสะเทือนโดยไม่ทราบสาเหตุ รถเริ่มบังคับได้ยากโดยเฉพาะในจังหวะเลี้ยว อาการเหล่านี้บ่งบอกว่ายางรถกำลังร้อนจัดและเริ่มบวมออกมา รถยนต์ยางแตกจะไม่มีเสียงระเบิดดังขึ้นทุกครั้ง แต่อาจวิ่งได้ช้าลง หรือส่ายไปมา ยิ่งทำความเร็วมาก ก็ยิ่งส่ายมาก ถ้ายางแตกที่ล้อหน้าพวงมาลัยจะฝืด ถ้าเป็นที่ล้อหลัง ผู้โดยสารที่นั่งด้านหลังจะรู้สึกได้ หากรถมีอาการผิดปกติดังกล่าว ให้ลองฟังเสียงขณะขับขี่ว่ามีเสียงผิดปกติเกิดขึ้นไหม เช่น เสียงลมพุ่งออกมา หรือเสียงล้อยางที่บดกับถนนหรือไม่ ถ้าใช่ เตรียมตั้งสติให้ดีได้เลย
รถยนต์ยางแตกเกิดจากอะไร
รถยนต์ยางแตกเกิดได้จากหลายสาเหตุ ควรรู้เพื่อเพิ่มความระมัดระวัง ดังต่อไปนี้
- ยางรถยนต์เสื่อมสภาพ สังเกตจากลมยางที่อ่อนกว่าปกติ ต้องเติมลมยางบ่อยแม้ไม่มีรอยรั่ว แก้มยางหรือหน้ายางที่มีรอยแตกลายงา ฉีกขาด ดอกยางสึกหรอ ยางที่เสื่อมสภาพมักส่งเสียงเตือนเจ้าของรถ ทั้งเสียงยางตอนเบรกที่ดังมาก ทั้งที่ไม่ได้เบรกแรง และเสียงยางดังขณะเข้าโค้งช้า ๆ เมื่อพบว่ายางเสื่อมสภาพต้องห้ามชะล่าใจ รีบเปลี่ยนยางใหม่ทันที
- การขับขี่ด้วยความเร็วสูง เกินกว่าสมรรถนะของยาง เป็นอีกหนึ่งสาเหตุให้รถยางแตกได้
- การบรรทุกน้ำหนักเกินมาตรฐาน ทำให้ยางแบกรับน้ำหนักไม่ไหว
- เติมลมยางไม่ถูกต้อง มากไปบ้าง น้อยไปบ้าง รวมถึงปัญหาจากยางรั่วซึม
- ยางร้อนจัด บางครั้งเกิดจากเบรกติดที่ล้อ ซึ่งอาจทำให้ไฟไหม้รถได้
- เลือกขนาดยางไม่เหมาะสม เช่น ขนาดยางที่ไม่พอดี การใช้ยางกับรถผิดประเภท เป็นต้น
- ใช้ยางที่ไม่ได้คุณภาพ เช่น ยางเปอร์เซ็นต์ที่สภาพไม่เต็มร้อย หรือยางราคาประหยัดที่ไม่ได้รับการรับรองมาตรฐาน
รถยนต์ยางแตกขณะขับขี่ ควรทำอย่างไร
เมื่อรู้แล้วว่ารถยางแตก สิ่งแรกที่ต้องทำคือตั้งสติ จับพวงมาลัยให้มั่น ห้ามดึงเบรกมือ เพราะจะทำให้รถหมุนเคว้ง และอย่าเหยียบเบรกกะทันหันเด็ดขาด ให้เปิดไฟฉุกเฉินเป็นสัญญาณเตือนรถที่มาข้างหลังว่า รถของเรากำลังมีปัญหา แล้วประคองรถจนกว่าความเร็วจะลดลงในระดับที่ปลอดภัยจึงเลี้ยวจอดข้างทาง เมื่อรถอยู่ในที่ปลอดภัยแล้วให้พิจารณาเปลี่ยนยางเอง หรือโทรเรียกช่างก็ได้ แต่ทางที่ดี ผู้ขับขี่ควรศึกษาวิธีการเปลี่ยนยาง และมีอุปกรณ์ซ่อมแซมฉุกเฉินติดรถไว้เสมอ
รถยนต์ยางแตก ป้องกันได้ไม่ยาก
เราสามารถป้องกันไม่ให้รถยางแตกได้ ด้วยการเพิ่มความใส่ใจในการใช้ยางรถยนต์ และดูแลตามคำแนะนำดังต่อไปนี้
- หมั่นตรวจยางรถยนต์ทุกเส้นให้อยู่ในสภาพพร้อมใช้งาน ไม่มีร่องรอยชำรุด หากพบว่ามีการชำรุด ยางรถบวม รั่วซึม แตก ควรแก้ไขทันที และห้ามใช้รถขณะยางมีปัญหา
- เข้าศูนย์บริการดูแลตามระยะทาง ทั้งศูนย์บริการรถยนต์ เพื่อตรวจเช็กสภาพรถ และศูนย์บริการยางสำหรับผู้ที่เปลี่ยนยางนอกศูนย์บริการรถยนต์ เพื่อรับบริการสลับยาง ตั้งศูนย์ถ่วงล้อ ตามระยะทางที่รับประกัน
- เช็กลมยางเป็นประจำ สัปดาห์ละครั้ง หรือก่อนเดินทางไกล
- ใช้ยางให้เหมาะสมกับประสิทธิภาพของถนน ต้องรู้ว่ายางที่ใช้สามารถทำความเร็วได้ระดับไหน หรือบรรทุกหนักได้เท่าไหร่
ปัญหาใหญ่หรืออันตรายใด ๆ ที่เกิดจากล้อรถยางแตก สามารถป้องกันได้หากผู้ขับขี่รู้วิธีบำรุงรักษาส่วนต่าง ๆ ของรถ รวมถึงมีการเตรียมพร้อมศึกษาวิธีรับมือกับเหตุฉุกเฉินเอาไว้ล่วงหน้าเสมอ เพราะอุบัติเหตุเกิดขึ้นได้ทุกเมื่อ การมีสติและมีความรู้เบื้องต้นในการจัดการกับปัญหาจะช่วยให้เราปลอดภัยจากสถานการณ์ที่ไม่คาดฝันได้
ขอขอบคุณข้อมูลจาก : https://www.bridgestone.co.th/th/tire-clinic/drivers-essential/cause-of-tire-blowout