ชนแล้วหนี จำทะเบียนได้/ไม่ได้ ต้องทำอย่างไร? เรียกร้องค่าความเสียหายอะไรได้บ้าง?

“ชนแล้วหนี” คือ เหตุการณ์รถชนรถที่ผู้กระทำความผิดมีท่าทีเตรียมขับหนีออกจากพื้นที่เกิดเหตุ ไม่แสดงความรับผิดชอบต่อความเสียหายที่เกิดขึ้น หรืออาจไม่สาเหตุระบุตัวผู้กระทำความผิดได้เนื่องจากจอดรถไว้โดนชนแล้วหนี ทำให้เงื่อนไขในการแจ้งเคลมประกันแตกต่างออกไปตามข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น และกรมธรรม์ประกันรถยนต์ที่มีอยู่ แรบบิท แคร์ รวบรวมสิ่งที่ต้องทำเมื่อถูกรถชนแล้วหนี และรายการค่าเสียหายที่เรียกร้องได้เมื่อถูกชนแล้วหนีมาฝากกัน

โดนชนแล้วหนี ต้องทำอย่างไร?

กรณีถูกชนแล้วหนี และคู่กรณียังอยู่ในพื้นที่เกิดเหตุ เจ้าของรถต้องตั้งสติและจดจำเลขทะเบียนรถ รวมถึงลักษณะรุ่นและยี่ห้อรถของคู่กรณีให้ได้มากที่สุด เพื่อเป็นประโยชน์ต่อบริษัทประกันและเจ้าหน้าที่ตำรวจในการออกหมายเรียก

กรณีโดนชนแล้วหนี แต่จำรายละเอียดเลขทะเบียนรถคู่กรณีไม่ได้ หรือไม่เห็นตัวผู้กระทำความผิด เจ้าของรถคันที่ได้รับความเสียหายอาจต้องติดตามรวบรวมข้อมูลคู่กรณีเอง อย่างไรก็ตาม มีสิ่งที่ต้องทำเมื่อถูกรถชนแล้วหนีทั้งหมด 3 ขั้นตอนหลัก ๆ ดังต่อไปนี้

  1. โทรแจ้งบริษัทประกันทันที เพื่อให้เจ้าหน้าที่เข้าถ่ายรูปความเสียหาย
  2. เข้าแจ้งความที่สถานีตำรวจ เพื่อรับหลักฐานใบแจ้งความ และออกหมายเรียก
  3. รับใบเคลมจากเจ้าหน้าที่ประกัน เพื่อนำรถเข้าซ่อมอู่หรือซ่อมศูนย์ได้ทันที

ชนแล้วหนี จำทะเบียนได้

กรณีที่เจ้าของรถจำเลขทะเบียนรถของผู้ที่ขับรถชนแล้วหนีได้ รวมถึงข้อมูลรายละเอียดรถของคู่กรณี เช่น ยี่ห้อรถ สีรถ หรือลักษณะของรถ รวมถึงสามารถยื่นเรื่องขอเช็คทะเบียนรถว่าใครเป็นเจ้าของได้ด้วยตัวเองที่กรมการขนส่งทางบก จากนั้นเข้าแจ้งความหรือแจ้งลงบันทึกประจำวันที่สถานีตำรวจ และรอออกหมายเรียกตัวผู้กระทำความผิดต่อไป

อย่างไรก็ตาม กรณีที่เจ้าของรถหรือผู้ขับขี่รถที่ได้รับความเสียหายจากการถูกชนแล้วหนี และเลือกทำประกันรถยนต์ในชั้นอื่น ๆ ที่ไม่ใช่ประกันรถยนต์ชั้น 1 เอาไว้ เจ้าของรถอาจต้องเป็นผู้ติดตามตัวผู้กระทำความผิดด้วยตัวเอง เพื่อรวบรวมข้อมูลให้เจ้าหน้าที่ตำรวจหรือบริษัทประกันเรียกตัวผู้ทำความผิดเข้ารับผิดชอบความเสียหายที่เกิดขึ้นต่อไป

ชนแล้วหนีแต่จำทะเบียนไม่ได้ต้องทำอย่างไร?

กรณีที่ถูกรถชนแล้วหนีแบบซึ่งหน้า และไม่สามารถจำเลขป้ายทะเบียนรถคู่กรณีได้ รวมถึงกรณีโดนชนแล้วหนี แต่ไม่สามารถระบุตัวผู้ก่อนเหตุได้ทันทีจากในสถานที่เกิดเหตุ สามารถตรวจสอบข้อมูลผู้กระผิดได้จากกล้องติดภายในรถของรถตนเอง (ถ้ามี) หรือจากกล้องของรถคันอื่นในพื้นที่ รวมถึงอาจแจ้งขอดูกล้องวงจรปิด CCTV จากหน่วยงานราชการในพื้นที่เกิดเหตุ เพื่อรวบรวมหลักฐานส่งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจหรือบริษัทประกันในการแจ้งเคลมต่อไป

ทั้งนี้ หากรถคันที่ได้รับความเสียหายจากการชนแล้วหนีไม่สามารถจดจำรายละเอียดผู้กระทำความผิดได้ และได้ทำประกันรถยนต์ชั้น 1 ไว้ บริษัทประกันรถยนต์จะเป็นผู้ติดตามตัวผู้กระทำความผิดให้แทน

โดนชนแล้วหนี เรียกร้องอะไรได้บ้าง?

กรณีถูกรถคันอื่นชนแล้วหนี เจ้าของรถหรือผู้ขับขี่รถคันที่ได้รับความเสียหายสามารถเรียกร้องค่าความเสียหายต่อตัวรถ ค่าชดเชยความเสียหายต่อทรัพย์สินอื่น ๆ  ค่ารักษาพยาบาลที่เกิดขึ้น ค่าเสื่อมราคารถ หรือค่าขาดประโยชน์จากการใช้รถระหว่างซ่อม โดยอาจเรียกร้องได้จากประกันรถยนต์ที่ทำไว้ พ.ร.บ. รถยนต์และรถจักรยานยนต์ หรือฟ้องร้องค่าเสียหายโดยตรงจากคู่กรณี

อย่างไรก็ตาม การเรียกร้องค่าชดเชยความเสียหายที่เกิดขึ้นจากกรณีรถชนแล้วหนี แบ่งพิจารณาการเรียกร้องค่าเสียหายต่อตัวรถจากกรณีข้างต้นได้ 2 กรณี คือ

1.โดนชนแล้วหนี มีประกัน

หากโดนรถคันอื่นชนแล้วหนี และมีประกันรถยนต์ เจ้าของรถหรือผู้ขับขี่จะเรียกร้องค่าซ่อมรถ ค่าชดเชยทรัพย์สินเสียหาย หรือค่าชดเชยกรณีมีผู้บาดเจ็บหรือเสียชีวิตได้ตามเงื่อนไขกรมธรรม์ประกันภัยรถยนต์ที่ทำไว้ และยังอยู่ในระยะเวลาคุ้มครอง มีรายละเอียดความคุ้มครองและการเรียกร้องความเสียหายกรณีถูกชนแล้วหนีตามเงื่อนไขแต่ละประเภทประกันรถยนต์ ดังนี้

  • ประกันภัยรถยนต์ชั้น 1

กรณีรถที่ทำประกันรถชั้น 1 ได้รับความเสียหายจากการถูกชนแล้วหนี สามารถเรียกร้องค่าความเสียหายที่เกิดขึ้นกับตัวรถคันที่ทำประกันได้จากประกันรถที่ทำไว้ ทั้งกรณีที่ระบุคู่กรณีได้หรือไม่มีคู่กรณี โดยหากแจ้งเคลมแบบมีคู่กรณีจะได้รับความคุ้มครองครบถ้วนทันทีจากประกันที่ทำไว้ ในขณะที่การแจ้งเคลมความเสียหายที่ไม่สามารถระบุคู่กรณีได้ ต้องจ่ายค่าเสียหายส่วนแรก (Excess) จำนวน 1,000 บาทต่อเหตุการณ์

  • ประกันภัยรถยนต์ชั้น 2+ หรือชั้น 3+

หากถูกรถชนแล้วหนีและมีประกันรถชั้น 2+ หรือประกันรถชั้น 3+ จะเรียกร้องค่าเสียหายต่อตัวรถคันเอาประกันจากการแจ้งเคลมประกันที่ทำไว้ได้ เฉพาะกรณีแจ้งคู่กรณีได้เท่านั้น เนื่องจากประกันชั้น 2+ หรือประกัน 3+ ให้ความคุ้มครองความเสียหายต่อรถคู่กรณีเป็นหลัก ในขณะที่จะให้ความคุ้มครองรถคันเอาประกันเฉพาะกรณีรถชนรถ และระบุคู่กรณีได้เท่านั้น

  • ประกันภัยรถยนต์ชั้น 2 หรือชั้น 3

กรณีโดนรถชนแล้วหนีและมีประกันรถชั้น 2 หรือประกันรถชั้น 3 เจ้าของรถที่ถูกชนแล้วหนีจะเรียกร้องค่าเสียหายต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นกับตัวรถได้โดยตรงจากคู่กรณีเท่านั้น ไม่สามารถแจ้งขอเคลมกับประกันรถที่ทำเอาไว้ได้ เนื่องจากประกันชั้น 2 และประกันชั้น 3 ให้ความคุ้มครองเฉพาะความเสียหายที่เกิดขึ้นกับรถของคู่กรณีเท่านั้น ไม่ให้ความคุ้มครองกรณีความเสียหายที่เกิดขึ้นกับตัวรถคันเอาประกัน

หากเจ้าของคันเอาประจำไม่สามารถติดตามตัวคู่กรณีได้ เจ้าของรถคันที่ทำประกันชั้น 2 หรือชั้น 3 ต้องเป็นผู้รับผิดชอบค่าซ่อมรถคันเอาประกันด้วยตนเองทั้งหมด

2.โดนชนแล้วหนี ไม่มีประกัน

กรณีถูกรถชนแล้วหนีและรถคันที่ได้รับความเสียหายนั้น ไม่มีประกันรถยนต์แต่อย่างใด แต่มี พ.ร.บ. รถยนต์ หรือ พ.ร.บ. รถจักรยานยนต์ที่ยังไม่หมดอายุความคุ้มครอง เจ้าของรถคันที่ได้รับความเสียหายจะต้องเรียกร้องค่าชดเชยความเสียหายที่เกิดขึ้นกับทั้งตัวรถ ทรัพย์สิน หรือบุคคลโดยตรงจากคู่กรณีผู้กระทำความผิดเท่านั้น

โดยอาจเจรจาตกลงไกล่เกลี่ยค่าความเสียหายได้โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจเป็นพยาน หรืออาจต้องฟ้องร้องเรียกร้องค่าเสียหาย กรณีคู่กรณีไม่ยอมชดใช้ค่าความเสียหายที่เกิดขึ้น ทั้งนี้ เจ้าของรถคันที่ไม่มีประกันรถ สามารถยื่นเรื่องขอรับความช่วยเหลือพื้นฐานจากภาครัฐได้ กรณีมีผู้ได้รับบาดเจ็บ หรือเสียชีวิตเท่านั้น ไม่สามารถขอรับเงินช่วยเหลือสำหรับซ่อมรถที่ได้รับความเสียหายจากกรณีถูกชนแล้วหนีได้

.

 ขอขอบคุณข้อมูลจาก : https://rabbitcare.com/blog/auto-insurance-tips/how-to-deal-hit-and-run-car-accident

บทความล่าสุด

ข่าวล่าสุด