วันนี้ ID Driver สถาบันสอนขับรถ ต่อใบขับขี่ เรียนขับรถ สีรถยนต์ก็เปรียบเสมือนสีเสื้อผ้า หากเราชอบแต่งตัวสวยๆ เท่ๆ ให้ดูดี ไร้จุดด่าง ไม่มีรอยหมองอย่างไร เราก็ย่อมอยากให้รถของเรามีความงดงามอย่างนั้น และการดูแลสีรถยนต์ให้สวยเสมอมีวิธีง่ายๆ ไปดูกัน
1.ล้างรถเป็นประจำๆ
การล้างรถบ่อยๆ เป็นวิธีที่ดีและง่ายที่สุดในการรักษาสีรถยนต์ เพียงเริ่มใช้น้ำเปล่าล้างให้ทั่วรถก่อน 1 รอบ เพื่อขจัดฝุ่นต่างๆ ที่เกาะตัวรถอยู่ จากนั้นใช้สบู่หรือแชมพูล้างรถที่ได้มาตรฐาน พร้อมกับใช้ฟองน้ำถูกเป็นแนวตรง หลีกเลี่ยงการถูเป็นวงกลมเพราะสิ่งสกปรกบนพื้นผิวอาจจะติดวนกลับมาขีดเขี่ยนบอดี้รถได้ พอใช้ฟองน้ำถูตามส่วนต่างๆ ของรถจนครบแล้ว ให้ล้างคราบโฟมและสิ่งสกปรกต่างๆ ออกด้วยน้ำเปล่า
ส่วนขั้นตอนต่อไป “การเช็ดรถให้แห้ง” ก็สำคัญกับสีรถเช่นกัน เพราะการปล่อยให้รถผึ่งลมจนแห้งเองจะทำให้เกิดคราบน้ำ และที่ยิ่งไปกว่านั้นคือ ในส่วนประกอบของน้ำ ไม่ว่าจะมาจากแหล่งไหนก็ตาม มักมีแร่ธาตุผสมอยู่ ซึ่งมีผลให้สีเสียหายได้ในระยะยาว การทำให้รถแห้งจึงควรใช้ผ้าไมโครไฟเบอร์เช็ดตามพื้นผิวให้แห้งจะดีที่สุด
2.ลงแว็กซ์หรือน้ำยาเคลือบสี
การแว็กซ์หรือน้ำยาเคลือบสีจะเป็นการเคลือบพื้นผิวของรถ ช่วยสร้างชั้นป้องกันให้รถจากคราบสกปรก มลภาวะต่างๆ น้ำและสารเคมีอื่นๆ โดยแว็กซ์หรือน้ำยาเคลือบสีก็ช่วยในการปกปิดริ้วรอยหรือจุดด่างดำขนาดเล็กๆ ได้ด้วย โดยการลงแว็กซ์หรือน้ำยาเคลือบสีเหล่านี้ต้องทำตามคำแนะนำบนผลิตภัณฑ์อย่างเคร่งครัดเพื่อให้ได้ผลดีที่สุด เพราะแต่ละผลิตภัณฑ์มีการออกแบบ วิจัย ที่ไม่เหมือนกัน จึงมีวิธีดึงประสิทธิภาพสูงสุดออกมาใช้ที่แตกต่างกัน
วิธีการลงแว็กซ์หรือน้ำยาเคลือบสีรถเพื่อดูแลรักษาสีรถยนต์ เบื้องต้น มีดังนี้
1. ล้างรถให้สะอาดพร้อมเช็ดให้แห้งก่อนเสมอ
2. ลงแว็กซ์หรือน้ำยาเคลือบสีบนฟองน้ำเพียงเล็กน้อย ไม่ควรใช้เยอะในคราวเดียว เพื่อป้องกันการทิ้งคราบบนตัวถังรถ
3. ลงแว็กซ์หรือน้ำยาเคลือบลงบนตัวรถเป็นส่วนๆ เพราะการลงแว็กซ์ทีเดียวรอบตัวรถ จะทำให้แว็กซ์สัมผัสอากาศ ทำให้เกิดการแข็งตัว และทำให้ประสิทธิภาพลดลง รวมไปถึงทำให้เกลี่ยยากขึ้นอีกด้วย
4. ถูแว็กซ์หรือน้ำยาเคลือบบนพื้นผิวตัวรถในทิศทางแบบหมุนวน ไม่ถูเป็นแนวยาว เพราะการถูเป็นวงกลมจะเกลี่ยแว็กซ์ได้ทั่วถึงกว่าในจุดที่ลง
5. เมื่อแว็กซ์หรือน้ำยาเคลือบแห้งแล้ว ให้ใช้ผ้าไมโครไฟเบอร์, ผ้าชามัวร์ หรือผ้าเนื้อนิ่มอื่นๆ ในการเช็ดแว็กซ์หรือน้ำยาส่วนเกินออก
3.หลีกเลี่ยงการจอดรถตากแดด
เพราะรังสี UV ไม่เพียงเป็นอันตรายต่อผิวหนังของสิ่งมีชีวิต แต่กับสีรถยนต์เองก็เช่นกัน แสงอาทิตยก่อให้เกิดปฏิกิริยาออกซิไดซ์กับสีรถ ส่งผลให้สีรถซีดลง ดูเก่ากว่าสภาพความเป็นจริง นอกจากนี้ความร้อนจะมีผลกับภายในของรถยนต์อีกด้วย โดยเฉพาะวัสดุที่หุ้มคอนโซลรถและชิ้นส่วนที่เป็นหนัง หากตากแดดนานๆ ชิ้นส่วนเหล่านี้จะแห้ง แตก หากเป็นไปได้ควรจอดในที่มีร่มเงา เพียงเท่านี้ก็เพียงพอต่อการรักษาอายุสีรถและสภาพภายในได้อีกนาน
4. เข้าอู่ทำสีรถยนต์เมื่อสีโดยรวมของตัวรถ เริ่มไม่เหมือนเก่า
หลังจากใช้งานรถยนต์มาได้ระยะเวลาหนึ่ง การเข้าอู่ทำสีก็เป็นเรื่องจำเป็นเหมือนกัน เพราะตัวถังรถยนต์อาจมีรอยขีดข่วน คราบต่างๆ ที่ต้องให้ช่างเฉพาะทางปรับสภาพ เพื่อฟื้นคืนสภาพภายนอก ให้ดูดีใกล้เคียงกับตอนออกจากศูนย์หรือโชว์รูมมากที่สุด
หลังจากใช้งานรถยนต์มาได้ระยะเวลาหนึ่ง การเข้าอู่ทำสีก็เป็นเรื่องจำเป็นเหมือนกัน เพราะตัวถังรถยนต์อาจมีรอยขีดข่วน คราบต่างๆ ที่ต้องให้ช่างเฉพาะทางปรับสภาพ เพื่อฟื้นคืนสภาพภายนอก ให้ดูดีใกล้เคียงกับตอนออกจากศูนย์หรือโชว์รูมมากที่สุด
ขอขอบคุณข้อมูล : เยลโล่เซอร์วิส