การใช้รถยนต์อย่างปลอดภัยและมีประสิทธิภาพนั้นเป็นสิ่งสำคัญที่ทุกคนควรรู้และปฏิบัติตามเพื่อลดความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุและเพิ่มความสะดวกสบายในการขับขี่ วันนี้ ID Driver สถาบันสอนขับรถ ต่อใบขับขี่ เรียนขับรถ นี่คือเทคนิคบางอย่างที่สามารถช่วยให้การใช้รถยนต์ของคุณปลอดภัยและมีประสิทธิภาพมากขึ้น
1. สัญญาณเตือนหน้าปัดรถมีความหมาย
สังเกตุไหมค่ะว่า ทุกครั้งที่เราสตาร์ทรถจะมีเครื่องหมายสัญลักษณ์ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นระบบเครื่องยนต์ เบรกมือ เข็มขัดนิรภัย น้ำมันเครื่อง ระดับอุณหภูมิ และระดับน้ำมัน ซึ่งแต่ละสัญลักษณ์ก็มีสีที่แตกต่าง คือ สีเขียวแปลว่าใช้งานได้ปกติ, สีเหลืองเป็นการเตือนแต่ยังสามารถใช้ได้อยู่ และสีแดงบอกถึงปัญหา ให้หยุดใช้รถและรีบตรวจเช็คว่ามีความผิดปกติหรือไม่
ทั้งหมดนี้เป็นเรื่องพื้นฐาน แต่ก็เป็นเรื่องพื้นฐานที่บางคนมองข้าม และอาจเกิดความเสียหายได้ค่ะ
2. ไฟส่องสว่าง คือความปลอดภัยทั้งคุณและผู้อื่น
ไฟส่องสว่างและไฟสัญญาณต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นไฟหน้า ไฟท้าย ไฟเบรก ไฟเลี้ยว คือสิ่งที่เราใช้ทุกครั้งเวลาขับรถ แต่เรามักจะละเลยว่าไฟเหล่านี้นั้นอยู่ในสภาพที่พร้อมใช้งานหรือเปล่า หากอุปกรณ์เหล่านี้เกิดชำรุด อาจนำมาซึ่งอุบัติเหตุบนท้องถนนได้ค่ะ
3. รถเราก็ต้องการน้ำเหมือนกันนะคะ
ไม่ใช่แค่สิ่งมีชีวิตเท่านั้นที่ต้องการน้ำ แต่รถเองก็ต้องการน้ำเช่นกันค่ะ ไม่ว่าจะเป็นน้ำมันเชื้อเพลิง น้ำมันเครื่อง น้ำมันเกียร์ น้ำมันเบรก น้ำกลั่น น้ำหล่อเย็น เป็นต้นค่ะ เพราะฉะนั้นเราก็ต้องหมั่นตรวจเช็คน้ำเหล่านี้ให้เป็นนิสัยด้วยนะคะ เพราะทุกน้ำมีความสำคัญและส่งผลถึงทุกการทำงานของรถที่คุณรัก เสียเวลาตรวจเช็คไม่มากแต่ดีกว่าต้องมาเสียเงินซ่อมรถที่หลังนะคะ
4. ถ้าแอร์ไม่เย็นจะเป็นเรื่อง
นึกถึงสภาพอากาศในปัจจุบันที่แสงแดดแผดเผากันทุกฤดูขนาดนี้ ถ้าวันใดที่แอร์ของรถเสียขึ้นมาคงไม่สนุกแน่ๆ เพราะฉะนั้นควรระวังอย่าให้น้ำยาแอร์หมดค่ะ เพราะนอกจากจะทำให้อากาศร้อนแล้ว ยังส่งผลให้คอมเพรสเซอร์ทำงานหนักขึ้นและสุดท้ายก็อาจพังก่อนเวลาอันควรคะ
5. กระจกรถเบลอหรือมองเห็นไม่ชัด
อีกสิ่งที่สำคัญคือกระจกในทุกตำแหน่ง ซึ่งเกี่ยวข้องโดยตรงกับวิสัยทัศน์ในการขับขี่ อย่าลืมรักษากระจกให้สะอาด เช็คให้ถูกตำแหน่งกับสายตาเรา เรื่องกระจกนี้ยังรวมไปถึงการตรวจเช็คที่ปัดน้ำฝนให้มั่นใจว่ายังไม่เสื่อมสภาพด้วยนะคะ
6. ตรวจเช็กลมยางให้เป็นกิจกรรมประจำเดือน
เพราะรถมีหลายรุ่น ยางรถมีหลายขนาดและใช้ลมยางที่แตกต่างกันไป สิ่งที่เราควรทำคือ ตรวจเช็คลมยางเป็นประจำ นอกจากนี้ ควรเช็คดอกยางด้วยว่าหายไปหมดหรือยัง หรือกำหนดไปเลยก็ได้ว่าถ้าไม่เหลือบ่ากว่าแรงจริงๆ ต้องเปลี่ยนทุกๆ 2 ปี
7. เลขไมล์บอกอายุรถของคุณได้
นอกจากจะนับว่าเราซื้อมาปีไหนแล้ว ต้องดูที่อายุการใช้งานของรถด้วยว่าเราใช้ไปกี่กิโลเมตร เพื่อที่เราจะนำรถไปตรวจสภาพได้ถูกต้อง ตรงตามกำหนด เป็นการยืดอายุการใช้งานของรถและลดรายจ่ายค่าซ่อมรถได้อีกทางหนึ่ง ที่สำคัญ!! ถ้ามีแผนจะขายรถต่อ อย่าลืมว่าราคาของรถมือสองส่วนหนึ่งก็ขึ้นอยู่กับอายุการใช้งานด้วยนะคะ
8. คนไหนขับ คนนั้นเช็ค
ต่อให้คุณมีคนทำงานบ้านที่ดูแลรถให้ หรือรถต้องใช้หลายมือ แต่เมื่อคนที่ขับรถตอนนี้คือคุณ เพราะฉะนั้นก่อนใช้และระหว่างใช้รถแต่ละครั้งก็ควรสังเกตสภาพรถด้วยว่ามีอะไรผิดปกติไปหรือเปล่า รวมถึงประเมินสภาพตัวเองด้วยว่าอยู่ในสภาพพร้อมขับรถหรือไม่นะคะ
9. ราคาน้ำมันต้องติดตาม
ราคาน้ำมันมีผลต่อชีวิตประจำของเราอย่างมาก เพราะค่าใช้จ่ายของใช้รถหลักๆ ก็เป็นค่าน้ำมัน เพราะฉะนั้นการติดตามราคาน้ำมันรถ และนอกจากดูเรื่องราคาแล้ว ก็อย่าลืมเช็คให้แน่ใจว่าประเภทของน้ำมันที่ใช้อยู่นั้นเหมาะสมกับรถของเราด้วยนะคะ
10. ทำประกันและเสียภาษีไว้อุ่นใจกว่าค่ะ
รถทุกคันจำเป็นต้องมีประกันรถยนต์ตาม พรบ.เพื่อนำไปเสียภาษี ดังนั้น เราต้องหมั่นตรวจเช็คเสมอว่ารถของเรา ประกันหมดอายุแล้วหรือยัง หรือเสียภาษีตามกำหนดหรือไม่ หากเกิดอุบัติเหตุ จะได้มีประกันในการบรรเทาความเดือดร้อนให้เราได้ค่ะ และจะได้ไม่ทำผิดกฎหมายจราจรด้วยนะคะ
ขอบคุณข้อมูลจาก : siamsmile.co.th